28.2.51

Logo

ก็มีเรื่องเกี่ยวกับโลโก้ที่น่าสนใจ ที่อาจจะมีบางคนที่ยังไม่รู้ ถึงสัญลักษณ์ ที่นักออกแบบแทรกอยู่
logo สมควรจะเป็นที่สุดก็คือการเป็น logo ที่สามารถแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของบริษัทนั้นๆได้ หลายๆ logo บนโลกนี้ที่ฉันชอบ ซึ่งก็ไม่ได้มี graphic ลวดลายอะไรที่ยุ่งยากมากมาย บางครั้งก็เป็น logo ที่มีแต่ตัวอักษร แต่ความเจ๋งของมันก็คือ concept และแนวคิดที่อยู่ด้านหลังของ logo เหล่านั้นต่างหาก

Logo แรกคือ Amazon.com

หลายคนคงเคยเข้า amazon.com .. logo ของ amazon.com เป็น logo ที่เรียบง่ายมากๆ ไม่ต้องเล่นสีสันหรือ graphic อะไรมากมาย เป็น text สะกดคำว่า Amazon.com กับลูกศรอยู่ทางด้านล่างของ logo ถ้าจะให้ลองดูดีดี ลูกศรนี้ลากจากตัวอักษร A ไปถึงตัวอักษร Z ในความหมายคือว่า Amazon.com มีทุกอย่าง ตั้งแต่ A-Z

FedEx คือบริษัทรับส่งพัสดุ คู่แข่งสำคัญๆ ก็คือ DHL ปัจจุบันนี้หาคนไม่รู้จัก FedEx คงยากนะ อย่างไรก็ตาม Logo ของ FedEx ออกมาได้ประมาณ 10 ปีเห็นจะได้

แวบแรกที่เห็น logo ของ FedEx เมื่อทำการ rebrand แล้ว ก็พบว่ามันเป็น logo ที่เรียบง่าย แต่สวยมากๆ

อย่างไรก็ตาม พอได้รู้ทีหลัง ก็พบว่า ที่ตัว logo ของ FedEx เองนั้นมีอะไรอย่างหนึ่งซ่อนอยู่

ลูกศร

เห็นมั้ยเอ่ย เป็นลูกศรสีขาวที่เป็นช่องอยู่ระหว่าง E กับ x ทาง designer บอกว่า ลูกศรนี้แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็ว และแม่นยำ แน่นอน.. อย่างนี้เรียกว่า สวยลึกๆ

Yamato
Yamato เป็นบริษัทขนส่งของญี่ปุ่น (ชื่อก็บอกอยู่) ส่วน Logo นี้เป็นรูปแม่แมวคาบลูกแมว ซึ่งเปรียบเทียบว่า แม่แมวที่คาบลูกแมวนั้นจะคาบด้วยความทนุถนอม นั่นหมายถึงความปราณีตและทนุถนอมในการขนส่งสินค้า ส่วนแมวนั้น สำหรับคนญี่ปุ่นหมายถึงความโชคดีครับ ความชอบโดยส่วนตัวนั้น นอกจาก concept แล้ว ยังคิดว่า ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจคิดมากๆ เราก็อาจจะออกแบบ logo สำหรับบริษัทนี้มาเป็นรูปรถยนต์ขนส่งสินค้า หรือไม่ก็อาจจะเป็นรูปมือแล้วมีสินค้าอยู่บนมืออะไรอย่างนี้ แต่นี่ ใช้ "แมว" และเป็นแม่แมวคาบลูกแมว .. ลึกซึ้งลึกซึ้ง
เป็นหนึ่งใน logo ที่มีการถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ในทั้งทางบวกและลบ Logo นี้ออกแบบโดยบริษัท Landor Associates ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันกับที่ออกแบบ logo ของ FedEx ล่ะครับ ซึ่งตัว logo นี้ สิ่งที่สะดุดตา และทำให้จำได้แม่นมากๆ ก็คือตัว Logo ที่เป็นภาพวาดพู่กันออกมาเป็นรูปวงกลมสีแดง ซึ่งทาง designer เค้าเรียกว่า "Innovation Ring" แต่กับคนที่ไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปซึ่งบอกว่า logo นี้หมิ่นศาสนาพุทธ หรือวัฒนธรรมเอเชีย หรือแม้กระทั่งพนง.ของ Lucent เองที่บอกว่า มอง logo แล้วเหมือนรูปโดนัทที่วาดโดยเด็กตัวเล็กๆ

สำหรับ logo ตัวนี้ concept เบื้องหลังลึกๆ คืออะไร ไม่แน่ใจ แต่ที่เอามาให้ดูเพราะเป็นหนึ่งใน logo ที่เห็นครั้งเดียวแล้วจำได้แม่น ซึ่งนั่นก็คือหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของการเป็น logo นั่นคือความสามารถในการทำให้คนที่เห็น จดจำได้าง่าย รวดเร็ว และไม่ลืมชื่อบริษัท

7 eleven..



เหตุที่เป็น logo ที่มีคนพูดถึงมากที่สุด logo หนึ่งก็เพราะว่า ตัวอักษรสุดท้ายของคำว่า Eleven นั้น สะกดด้วย "n" ตัวเล็กเพียงตัวเดียว ในขณะที่ตัวอักษรอื่นๆก่อนหน้านี้ ELEVE นั้นสะกดด้วยตัวใหญ่หมดเลย

หลายคนอ้างว่า การทำ logo เป็นรูปตัว 'n' เล็ก ก็เพื่อทำให้เหมือนกับเป็นรูปแม่เหล็ก ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นฮวยจุ้ย ช่วยดึงดูดเงิน และตัวลูกค้าเข้ามาในร้านได้ ซึ่งความเข้าใจตรงนี้ได้ถูกพิสูจน์ด้วยการที่มีคนเมล์ไปถามที่ 7 eleven สาขาใหญ่ถึงความเป็นมา แล้วก็พบสาเหตุว่า..

การที่ทำตัว 'n' เป็นตัวเล็กนั้น เกิดขึ้นเมื่อภรรยาของเจ้าของ 7 eleven ในสมัยก่อน เห็นว่าเมื่อทำตัว 'n' ให้เป็นตัวใหญ่เหมือนตัวอื่นๆแล้ว จะทำให้ความสามารถในการมองเห็นและอ่านชื่อนั้นเป็นไปได้ยากกว่า ดังนั้นจึงได้ขอปรับให้เป็น 'n' ตัวเล็กอย่างที่เราเห็นๆกันง่ายๆ แบบนั้นแหละ
.. logo ต้องสามารถส่งข้อความถึงลูกค้าได้ด้วย


Nike เป็นชื่อของเทพกรีก มีความหมายแปลว่า Victory หรือชัยชนะ ตัว logo นั้นมีชื่อว่า Swoosh ซึ่งโดยสัญลักษณ์ที่แท้จริงของ logo นี้คือตัว V ซึ่งหมายถึง victory นั่นเอง อย่างไรก็ตาม logo นี้ก็ยังสามารถมองได้เป็นต่างๆนานาอีกเช่น บางคนเห็นเป็นเหมือนปีกของเทพ (เมื่อ logo ติดอยู่ที่ด้านข้างของรองเท้า) หรือบางคนก็เห็นว่าเป็นเครื่องหมายถูก อย่างไรก็ตาม กำเนิดของ logo Nike มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าความหมาย

Logo Nike เกิดขึ้นจากการที่เจ้าของ Nike Phil Knight ต้องการ Logo สำหรับธุรกิจรองเท้าของตัวเองอย่างด่วน เลยวิ่งเข้าไปหานักเรียน designer คนหนึ่งที่ชื่อว่า Carolyn Davison ขณะกำลังทำงาน drawing ส่งอาจารย์ แล้วบอกว่า อยากได้ logo ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็น movement ซึ่งหลังจากที่ Carolyn ออกแบบมามากมาย แต่ละอันนั้นไม่โดนใจ Phil เลยซักกะนิด แต่เนื่องจากเวลานั้นไม่มีเหลือแล้ว ทาง Phil เลยบอกว่า OK เอาอันนี้ก็ได้ ซึ่งนั่นก็คือ Swoosh logo ปัจจุบันนั่นเอง พร้อมกับจ่ายเงินค่าจ้างเป็นจำนวนเงินเพียง 35 เหรียญ

ถึงแม้จำนวนเงินจะน้อยนิด แต่ว่าอีก 10กว่าปีต่อมา Phil ได้ส่งแหวนทองคำเป็นรูป logo Nike ไปให้กับ Carolyn พร้อมกับผลิตภัณฑ์ของ Nike ซึ่งเป็นจำนวนที่ถูกปิดเป็นความลับด้วย

จริงๆอยากจะต่อด้วย logo Apple แต่เหนื่อยและ ขอต่อด้วยเรื่องที่บอกไว้ตอนต้นดีกว่า เรื่องของ Logo identity

Logo ทุก logo จะถูกกำหนดไว้โดย designer ตั้งแต่แรก เป็นต้นว่า ต้องใช้สีอะไร code อะไร หากต้องพิมพ์เป็นขาวดำจะต้องเป็นอย่างไร Logo บาง Logo จะไม่สามารถอยู่บนพื้นสีอื่นๆได้เลย นอกจากสีขาว หรือสีที่กำหนดไว้ หากบาง logo สามารถอยู่ได้ ก็จะต้องมีการกำหนดขึ้นมาอีกกว่า หากพื้นด้านหลัง logo เป็นสีโทนมืด ตัว logo จะเป็นอย่างไร พื้นเป็นโทนสว่าง logo จะเป็นอย่างไร

เท่าที่รู้ก็จะมีอยู่ 2 brands ข้ามชาติในประเทศนี้นะครับ ที่มี identity ชัดเจนมากๆในการใช้งาน ซึ่งนั่นก็คือ McDonald's และ KFC อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ว่า McDonald's นั้นจะมีอยู่ 2 สีหลักคือ เหลือง และแดง ส่วน KFC นั้นก็จะเป็น ขาว และแดง

อย่างไรก็ตาม มี McDonald's อยู่สาขาหนึ่งในประเทศไทยที่ถูกเปลี่ยนสี จากเหลือง แดง เป็น เหลือง น้ำตาล นั่นคือสาขา อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนสีก็เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบนั่นเอง ซึ่งหากใช้สีเหลืองแดงเหมือนเดิม จะทำให้สีนั้นโดดออกมามากเกินไป ไม่เหมาะ
logo เทพ อย่าง Starbucks ก่อน Logo Starbucks เป็นการรวมกันระหว่าง mermaid และ เทพ siren ของกรีก ซึ่งมีใบหน้าและลำตัวเป็นผู้หญิงและมีหางเป็นปลา 2 หาง โดย logo ที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น ได้มีการแก้ไขมาถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเทพ Siren นั้นอยู่ในสภาพที่เปลือยอกด้านบน และมี 2 หาง ใน version 2 ก็ได้มีการเอาผมลงมาปกปิดหน้าอกทั้ง 2 ข้างนั้นซะ แต่ก็ยังคงเห็นสะดืออยู่ ส่วน version 3 หรือตัวปัจจุบันนั้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก และสะดือ ถูกปกปิดหมด แถมยังได้เติมสีเขียวเข้าไปด้วย (จากที่ก่อนหน้าเป็นขาวดำ) อย่างไรก็ตาม ในงานครบรอบ 35 ปี ทาง Starbucks ก็ได้นำ logo version แรกกลับมาใช้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองด้วย
บางคนอาจจะงงว่า แล้วชื่อ Starbucks มาเกี่ยวอะไรกับกาแฟ ..​ไม่เกี่ยวอะไรเลย ชื่อ Starbuck เป็นชื่อของผู้ช่วยกัปตัน Ahab ในเรื่อง Moby-Dick ที่เจ้าของ Starbucks ชื่นชอบนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านั้นจริงๆแล้วมีอีกชื่อหนึ่งที่ชอบมากกว่านั่นคือชื่อ "Pequod" (อ่านว่า พี ควด ) แต่ทางหุ้นส่วนบอกว่า คงไม่มีใครคิดอยากจะกินกาแฟยี่ห้อ Pequod หรอก จึงได้ตกลงใช้คำว่า Starbucks จนมาถึงทุกวันนี้

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ

พอดีเราเขียน blog เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องแม่แมวคาบลูก แล้ว search ภาพ มาเจอ logo Yamato ใน blog ของคุณ
จึงจะขออนุญาต นำ logo และบทความบางส่วน ไปแสดงใน blog เรานะคะ ^ ^

http://poosechuan.com/index.php?option=com_content&view=article&id=120:2010-09-19-01-22-12&catid=37:2008-diary&Itemid=57

ขอบคุณค่ะ
poosechuan.com