3.12.50

จิตใต้สำนึก จรรยาบรรณ

ครั้งก่อนจากที่พูด เรื่องจิตใต้สำนึก กับ จรรยาบรรณ ว่าอะไรคือจรรยาบรรณของนักออกแบบ
จากการค้นคว้าเกี่ยวกับกลุ่ม citizen เป็นกลุ่มที่หน้าสนใจและน่าให้การสนับสนุน แต่ส่วนตัวแล้ว
คิดว่าเหมาะกับนักออบแบบที่มีความพร้อมเท่านั้น (รึเปล่า)
เพราะคนเรายังต้องมีปัจจัยอะไรหลายอย่าง ถ้าตรงฉิน เกินไปก็อยู่ไม่รอด

อย่างเรื่องจรรยาบันของหมอ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการตัดสินใจ ไม่มีไรถูกรึผิด ขึ้นอยู่กับผลที่ตามมา ซึ้งเป็นสิ่งที่จะเกิด ในอนาคต

การเปลี่ยนแปลง
การมีกฎใหม่

ทุกยุคทุกสมัยต่างก็ตั้งกฎหรือทฎษฎีขึ้นมาเอง เพื่องตอบสนองกับความรู้สึกตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ยุคสวิตดีไซย์ ยุคโพสโมเดิน ยุคโมเดิล กฎมีขึ้นได้ เพราะ ช่วงยุคช่วงสมัยหนึ่งมีการยอมรับ แต่เมื่อความศรัทราเสื่อมลง เกิดความคิดใหม่ๆ กฎก้อต้องถูกทำลายลง เพื่อเกิดสิ่งใหม่

กฎ (rule หรือ law) คือความจริงพื้นฐาน (principle) โดยมีความจริงในตัวของมันเองสามารถทดสอบได้ และได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้งโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

มีไว้ปฏิบัติตาม
มีไว้แหก ------------------- เล่นกับความรู้สึกคน
ทาสของกฎ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กลุ่ม/สมาคม/ชุมนุม/ชุมชน ชื่นชอบกับการตั้งกฎ

คำถามที่น่าคิดก็คือ หน้าที่แท้จริงของกฎ ในการดำเนินไปของกลุ่มคนนั้น คืออะไร หรือในอีกมุมหนึ่งก็คือ ที่ทางของกฎในระบบความหมายของกลุ่มคนคืออะไร

ถ้าจะพูดง่ายๆ คงจะตอบได้คร่าวๆ ว่า กฎ มีไว้เพื่อเป็นตัวแทนของอำนาจของคนในกลุ่ม เพื่อใช้บังคับอะไรบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ในสังคมที่มีขนาดใหญ่ กฎ (หรือกฎหมาย) มีไว้เพื่อ "บังคับโดยไม่ให้มีข้อโต้แย้ง"

เราสามารถสรุปได้โดยไม่ผิดพลาดอะไรว่า กฎนั้น มีไว้เพื่อผู้ปกครองสามารถบังคับ ขู่เข็ญ และกระทำการเผด็จการ ได้โดยไม่จำเป็นต้องพูด/กล่าว/ชี้แจง และหลายครั้งมันก็เป็นสิ่งที่อยู่เหนือขอบเขตของการใช้เหตุผลโดยสิ้นเชิง เขาสามารถอ้างเพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำนั้น กระทำไปตามกฎ (ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เขียนโดยคนไม่กี่คน ไม่ผ่านการไตร่ตรองและสอบถามความเห็นที่ถ้วนถี่ และการเปลี่ยนแปลงกฎนั้น ในทางทฤษฎีกระทำได้ แต่เกิดขึ้นได้ยากมาก)

คุณใช้กฎเมื่อคุณคุยกับอีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง คุณยกเอาคำพูดลอยๆ มาเพื่อใช้ตัดสินใจ ทั้งๆ ที่การที่คุยกันไม่รู้เรื่อง อาจเกิดจากความคับแคบในมุมมองของคุณเองก็ได้

กฎคือความรุนแรง กฎคือค้อนที่พร้อมจะกระแทกมือของเหตุผลให้แหลกละเอียด

ในความคิดของฉันแล้ว ผู้ที่นิยม (ชื่นชม/ชื่นชอบ) ในการใช้กฎทำงานเผด็จการแทนตนเอง นับว่าเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจที่สุด



จริงเหรอ.....เหตุการณ์รอบตัวบ่อยครั้งทำให้นึกน้อยใจในโชคชะตา เพราะมันมักเลวร้ายกว่าที่ควร เช่น ขับรถมาเป็นสิบปีไม่เคยชนอะไร แต่พอถูกขอร้องให้ถอยรถเพื่อน ออกจากซอยไม่ถึง 30 เมตร กลับชนเสาไฟฟ้าโครมใหญ่




เหตุการณ์เลวร้ายเกิดเหมือนสวรรค์แกล้งนี้ เกิดบ่อยกับทุกคน จนมีผู้ตั้งเป็นกฎไว้ เรียกว่า "กฎของเมอร์ฟี่" ความว่า "ถ้ามันเคยผิดพลาด มันก็จะผิดซ้ำอีก" นอกจากกฎของเมอร์ฟี่ ยังมีกฎอื่นๆ ที่มีผู้สังเกตพบมากมาย สมควรรวบรวมไว้ดังนี้






1.กฎความเป็นไปได้ ขนมปังทาเนยที่พลัดตกพื้น จะเอาหน้าด้านที่มีเนยคว่ำลงเสมอ และโอกาสที่เนยตกเปื้อนพรม จะมีมากขึ้นเป็นส่วนกับราคาของพรม






2.การดูดวง หมอดูมักทายหลายเรื่องทั้งดีและเลว แต่เรื่องที่แม่นที่สุดคือเรื่องที่เลวที่สุด










3.กฎแห่งความแม่นยำ หากขว้างก้อนหินสะเปะสะปะ มันจะพุ่งตรงเข้าหาวัตถุที่มีราคาแพงที่สุด










4.กฎของหาย ของใช้ที่เราเห็นทุกวันจะหายต่อเมื่อเราต้องการใช้มัน










5.กฎของเมธี เลขเด็ดที่เราไม่ซื้อ คือเลขที่จะออกงวดนั้นและหวยที่เราซื้อมักใกล้เคียงกับหวยที่ออก หากได้บวกลบคูณหารด้วยเลขอะไรสักตัว หรือกลับหน้ากลับหลัง แต่ถ้าเราซื้อเลขกลับ มันจะออกเลขตรง และถ้าเราซื้อทั้งสองแบบมันจะไม่ออกเลย










6.กฎแรงโน้มถ่วง วัตถุ 2 ชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากันจะตกถึงพื้นด้วยความเร็วขนาดที่ทำลายทรัพย์สินได้มากที่สุด เท่าๆกัน










7.ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อหนังสือ หนังสือปกสวย เนื้อในมักห่วย หนังสือปกขี้เหร่ เนื้อในห่วยกว่า










8.กฎห้ามพูด คนไทยรู้จักกฎนี้ดี จนมีสุภาษิตว่า "เข้าป่าอย่าเรียกหาเสือ" กฎมีว่า ทันทีที่คุณพูดแสดงความคาดหวัง ถ้าหวังสิ่งเลวสิ่งเลวจะมาหา และถ้าหวังสิ่งดี สิ่งเลวก็จะมาหา










9.กฎของโฮว์ (Howe's Law) มนุษย์ทุกคนมักจะทำอะไรไม่สำเร็จ










10.กฎของไซเมอร์กี้ ถ้าคุณรื้อชิ้นส่วนออกมาประกอบใหม่จะมีน็อตเหลือเสมอ










11.ข้อสังเกตของอีตัวร์ รถเลนข้างๆ มักเคลื่อนตัวดีกว่าเลนของเรา










12. กฎการแก้ปัญหา ในปัญหาใหญ่ๆ ที่เป็นอุปสรรคให้เราแก้ มักมีปัญหาเล็กๆ อยู่ภายในซึ่งพร้อมจะขยายตัว แทนที่ทันทีที่ปัญหาใหญ่ได้รับการแก้ไขลุล่วง 13. กฎทอง คนมีทองคือคนออกกฎ










14. ธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์เรามีสองประเภท ประเภทแรก คือ คนที่ชอบแยกคนเป็นสองจำพวก ประเภทที่สอง คือ คนที่รังเกียจพวกแรก










15. กฎยิ่งน้อยยิ่งดีของซีกัล คนที่มีนาฬิกาเรือนเดียว จะรู้เวลาแน่นอน คนที่มีนาฬิกาเพิ่มมาอีกเรือน จะไม่แน่ใจว่า เวลาใดถูกต้อง










16.กฎการใช้เวลาเหลื่อมล้ำ การเริ่มต้นงานเป็นสิ่งยาก เพราะงาน 90 % แรก จะกินเวลาไปถึง 90% ของเวลาในโครงการ ส่วนงาน 10% ที่เหลือจะกินเวลาอีก 90% ของเวลาในโครงการ


ไม่มีความคิดเห็น: