14.12.50

การทดลอง

ก็จากคราวที่แล้วที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมา ก็เลยลองสร้างกฎขึ้นมาอีกครั้ง อีกสถานที่ที่ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว คือลิฟท์ แต่อุปสรรคค่อยข้าง เยอะทีเดียว เพราะเป็นสร้านที่ส่วนบุคคล และมีกฎมากมาย แต่ก็ต้องลองกันซักตั้งหนึ่ง เลยลองที่หอของเพื่อน เอาป้ายไปติดตรงที่จะกดเรียกลิฟท์ว่า ลิฟท์เสีย ก้ไม่มีใครใช้ลิฟท์แต่อย่างใด เราก็เลยมาลองพิจารณาว่า ข้อความที่เราตั้งมันไม่ใช่กฎ เลยเปลี่ยนป้ายใหม่ว่า ห้ามใช้ คู่แรกที่ขึ้นมาพอเห็นป้ายปั้ป เกิดการถกเถียงกันเล็กน้อย ลองเรียกลิฟท์มา ลิฟท์ก็ทำงานปกติ แต่ก็มีการลังเล เขาจึงเดินกลับไปถามยาม

ด้วยเหตุนี้ จึงต้องรีบดึกป้ายออก เพราะเดี่ยวจะมีปัญหาตามมา ที่เราไปสร้างปัญหา.....
เมื่อได้รับคำยืนยังจากยามว่าลิฟท์ไม่ได้เสีย คู่นั้นจึงใช้ลิฟท์ เราก็ยังไม่ละความพยายาม แต่ก็ได้ไอเดียใหม่ว่า ลองติดป้ายกวนๆๆแปลกๆ ดู เผยอาจจะได้อะใหม่ๆเหมือนกับว่าเรากำลังทดลอง ทำไงให้ป้ายที่ติดประสบความสำเร็จ เลยได้ป้ายใหม่ว่า ลิฟท์สั่น หลังจากติดป้ายนี้ ก็มีคนแวะเวียนมาใช้บริการ แต่ก็ไม่มีใครใช้ ซักคน บางคนกดเรียกลิฟท์มา แต่ก็ไม่กล้าขึ้น ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จพอสมควร

จึงว่าวิเคราะห์ว่าทำไม คนเรานี่ก็แปลกมีกฎ ก็ชอบแหก บอกตรงๆไม่ชอบ หรือเพราะเราเล่นกับจิตใต้สำนึกของคน ลองมานึกกลับกัน ถ้าเราเป็นคนมาพบป้ายว่าลิฟท์สั่น จะรู้สึกอย่างไร คงงงๆมึนๆ แต่เพราะไม่กล้าเสี่ยง กลัวจะเกิดอันตราย หรือจะมีเหตุผลอื่น เราจบการทดลองนี้เพราะว่ายามขึ้นมาเห็นก่อน

จากครั้งแรกที่ทดลองที่อนุเสาวรีย์เรื่องเกี่ยวกับอริยาบทเกี่ยวกับการนั่ง ด้วยเหตุที่ไม่สามารถกลับไปทดลองที่เดิมได้ จึงทดลองแค่ที่สวนรถไฟ เก้าอี้สาธารณะ ได้ลองนำป้ายไปติดว่า อันตรายแต่นั่งได้ คนผ่านไปผ่านมา ไม่มีใครนั่ง กฎนี้ประสบความสำเร็จหรือ..... ไม่ใครนั่งจริงๆหรือแรงผลัก ไม่พอ เพราะสถานที่แตกต่างกับที่อนุเสาวรีย์อย่างมาก คนไม่แออัด และ สวนสาธารณะก็สามารถนั่งบนหญ้าได้ คนเรามักชอบเลี่ยงอันตรายที่ไม่จำเป็น เพื่อปกป้องตัวเอง นี่คงเป็นจิตใต้สำนึกนึกๆของคนเรา

ไม่มีความคิดเห็น: